หน้าเว็บ

วันอังคารที่ 24 มกราคม พ.ศ. 2555

วิธีสมัครประกันสังคม มาตรา 40

การประกันสังคม คือการสร้างหลักประกันในการดำเนินชีวิตในกลุ่มของสมาชิกที่เข้าร่วมโครงการ โดยสมาชิกที่เรียกว่าผู้ประกันตนต้องจ่ายเงินสมทบเข้ากองทุนประกันสังคมเพื่อรับผิดชอบในการเฉลี่ยความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นจากการเจ็บป่วย คลอดบุตร ทุพพลภาพ ตาย สงเคราะห์บุตร ชราภาพ และว่างงาน เพื่อให้ได้รับการรักษาพยาบาลและมีการทดแทนรายได้อย่างต่อเนื่อง ตามกฎหมายประกันสังคมได้แบ่งผู้ประกันเป็น 3 มาตราดังนี้


1. ผู้ประกันตนตามมาตรา 33 คือลูกจ้างซึ่งมีอายุไม่ต่ำกว่าสิบห้าปีบริบูรณ์และไม่เกินหกสิบปีบริบูรณ์ ผู้ประกันตนที่เป็นลูกจ้างซึ่งเป็นผู้ประกันตนตามมาตรา  33  ลาออกจากงาน ลูกจ้างยังคงได้รับความคุ้มครอง 4  กรณี  คือ  เจ็บป่วย  ทุพพลภาพ  คลอดบุตร  และตาย จากการประกันสังคมต่อไปอีก  6  เดือน 

2. ผู้ประกันตนตามมาตรา 39 คือ บุคคลที่เคยเป็นผู้ประกันตนตามมาตรา 33 และความเป็นลูกจ้างสิ้นสุดลง แต่ประสงค์จะส่งเงินสมทบเข้ากองทุนประกันสังคมต่อเอง ซึ่งมีเงื่อนไขในการสมัครดังนี้ 

    - ต้องเคยจ่ายเงินสมทบเข้ากองทุนประกันสังคมมาแล้วไม่น้อยกว่า 12 เดือน
    - ต้องมายื่นคำขอเป็นผู้ประกันตนตามมาตรา 39 ด้วยตนเอง ภายในระยะเวลา 6 เดือนนับแต่วันที่ลาออก 


3. ผู้ประกันตนตามมาตรา 40 คือ ประชาชนทั่วไปที่ประสงค์เข้าสู่ระบบการประกันสังคม โดยยื่นใบสมัครด้วยตนเอง ณ สำนักงานประกันสังคมจังหวัด จะได้รับการคุ้มครองเพียง 3 กรณีเท่านั้น คือ กรณีคลอดบุตร กรณีทุพพลภาพ และกรณีตาย โดยผู้สมัครต้องมีคุณสมบัติดังนี้ 
    - มีอายุไม่ต่ำกว่า 15 ปีบริบูรณ์ และไม่เกิน 60 ปีบริบูรณ์

    - ไม่เป็นผู้ประกันตนตามมาตรา 39- ไม่เป็นผู้ทุพพลภาพ
    - ไม่เป็นวัณโรคในระยะอันตราย โรคพิษสุราเรื้อรัง และโรคซึ่งอยู่ในระหว่างการรักษาและอยู่ในสภาพใช้เครื่องช่วยชีวิต 
          
จากที่เกริ่นนำถึงความหมายการประกันสังคมและผู้ประกันตนตามมาตราต่างๆ ต่อไปจะกล่าวถึงวิธีสมัครประกันสังคม มาตรา 40 สำหรับผู้ที่ไม่ได้ทำงานกับสถานประกอบการ หรือผู้ที่ประกอบอาชีพอิสระทุกสาขาอาชีพสามารถเป็นผู้ประกันตนกับทางสำนักงานประกันสังคมได้ ซึ่งมีขั้นตอนดังต่อไปนี้


คุณสมบัติในการสมัคร
1.  ต้องเป็นผู้ที่มีอายุไม่ต่ำกว่า 15 ปีบริบูรณ์  และไม่เกิน 60 ปีบริบูรณ์
2.  ไม่เป็นผู้ประกันตนตามมาตรา 33  และ ผู้ประกันตนโดยสมัครใจ มาตรา 39

สิทธิประโยชน์พื้นฐาน

  1. เงินทดแทนการขาดรายได้ เมื่อเจ็บป่วย  เมื่อนอนโรงพยาบาลเป็นผู้ป่วยในตั้งแต่ 2 วันขึ้นไป  จะได้รับเงินทดแทนการขาดรายได้จำนวน  200  บาทต่อวัน ไม่เกิน 20 วันต่อปี   เงื่อนไข  จ่ายเงินสมทบครบ 3 เดือน ภายในระยะเวลา 4 เดือน
  2. เงินทดแทนการขาดรายได้ เมื่อทุพพลภาพ  รับเงินทดแทนการขาดรายได้จำนวน 500 - 1,000 บาทต่อเดือน  เป็นเวลานานถึง  15  ปี  เงื่อนไข  เงินทดแทนการขาดรายได้ เมื่อทุพพลภาพ  ขึ้นอยู่กับระยะเวลาการจ่ายเงินสมทบครบ 6 เดือนขึ้นไป
  3. เงินค่าทำศพ (เสียชีวิต)  จะได้รับค่าทำศพจำนวน 20,000 บาทต่อราย  เงื่อนไข  จ่ายเงินสมทบครบ 6 เดือน ภายในระยะเวลา 12 เดือน
  4. เงินบำเหน็จชราภาพ   ผู้ประกันตนสามารถรับเงินก้อน เมื่ออายุครบ 60 ปีบริบูรณ์  เงื่อนไข  มีอายุครบ 60 ปีบริบูรณ์

ทางเลือกที่คุ้มค่าสำหรับคุณ

     เพื่อสิทธิประโยชน์ดังกล่าว สำนักงานประกันสังคมขอเสนอทางเลือกที่คุ้มค่าสำหรับคุณด้วยชุดสิทธิประโยชน์  ดังนี้

ชุดสิทธิประโยชน์ 1

สิทธิประโยชน์พื้นฐานคุ้มครอง 3 กรณี คือ เงินทดแทนการขาดรายได้เมื่อเจ็บป่วย    เงินทดแทนการขาดรายได้ เมื่อทุพพลภาพ    เงินค่าทำศพ  

เงินสมทบที่จ่าย  

ผู้ประกันตนนำส่งเงินสมทบเดือนละ 100 บาทต่อเดือน  หรือวันละประมาณ 3 บาท *ในระยะแรกรัฐบาลมีนโยบายอุดหนุนให้ 30 บาท และ ผู้ประกันตนจ่าย 70 บาท

ชุดสิทธิประโยชน์ 2

สิทธิประโยชน์พื้นฐานคุ้มครอง 4 กรณี คือ เงินทดแทนการขาดรายได้เมื่อเจ็บป่วย    เงินทดแทนการขาดรายได้ เมื่อทุพพลภาพ    เงินค่าทำศพ   เงินบำเหน็จชราภาพ (เงินออมกรณีชราภาพ)

จ่ายเงินสมทบ

ผู้ประกันตนนำส่งเงินสมทบเดือนละ 150 บาทต่อเดือน หรือวันละประมาณ 5 บาท  *ในระยะแรกรัฐบาลมีนโยบายอุดหนุนให้  50 บาท  และ ผู้ประกันตนจ่าย 100 บาท
***ทั้งนี้ผู้ประกันตนที่ประสงค์รับเงินบำเหน็จชราภาพเพิ่มขึ้น  สามารถจ่ายเงินสมทบเพิ่มเติมได้ไม่เกินเดือนละ 1,000 บาทต่อเดือน
หมายเหตุ  ทั้งนี้  ในการจ่ายเงินสมทบของผู้ประกันตนมาตรา 40 จ่ายเป็นรายเดือน ๆ ละ 1 ครั้ง และจ่ายเงินสมทบล่วงหน้าได้ ครั้งละไม่เกิน 12 เดือน แต่ไม่สามารถจ่ายเงินสมทบย้อนหลังได้

วิธีการนำส่งเงินสมทบ

  1. ผู้ประกันตนตามมาตรา 40  สามารถนำส่งเงินสมทบได้ที่สำนักงานประกันสังคมเขตพื้นที่/จังหวัด/สาขา ที่ท่านสะดวก
  2. จ่ายผ่านเคาน์เตอร์เซอร์วิส 7-ELEVEN ได้ทุกสาขา  ไม่เฉพาะเคาน์เตอร์เซอร์วิส 7-ELEVEN เท่านั้น  แต่สามารถชำระได้ที่เคาน์เตอร์เซอร์วิสอื่นๆ ได้ทั่วประเทศ โดยมีค่าธรรมเนียม 10 บาทต่อครั้ง
  3. ชำระได้ที่เคาน์เตอร์ของธนาคารออมสินและธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร  โดยมีค่าธรรมเนียม 5 บาทต่อครั้ง เริ่มตั้งแต่วันที่ 5 กันยายน 2554 เป็นต้นไป
หมายเหตุ   การชำระเงินสมทบของผู้ประกันตนมาตรา 40 ที่เคาน์เตอร์เซอร์วิสจะเสียค่าธรรมเนียมครั้งละ 10 บาท ในส่วนการชำระผ่านธนาคารออมสินและธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร จะมีค่าธรรมเนียม 5 บาทต่อครั้ง โดยจะได้รับใบเสร็จรับเงินทันที  แต่ผู้ประกันตนต้องนำใบเสร็จรับเงินที่เคาน์เตอร์เซอร์วิสที่ออกให้  พร้อมสมุดนำส่งเงินสมทบมาตรา 40 ไปติดต่อที่สำนักงานประกันสังคมเขตพื้นที่/จังหวัด/สาขา  เพื่อให้ทางเจ้าหน้าที่ทำการประทับตราในสมุดนำส่งเงินสมทบ  เนื่องจากต้องใช้ประกอบการยื่นเรื่องเมื่อมีการรับสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ

เอกสารประกอบการสมัคร

1. แบบการขึ้นทะเบียนการเป็นผู้ประกันตน มาตรา 40 (สปส.1-40)
2. บัตรประจำตัวประชาชนตัวจริงหรือบัตรอื่นที่ทางราชการออกให้ พร้อมสำเนา

สถานที่ในการขึ้นทะเบียน

1. สำนักงานประกันสังคมเขตพื้นที่/จังหวัด/สาขา
2. หน่วยบริการเคลื่อนที่
3. สมัครผ่านตัวแทน (เจ้าหน้าที่ประกันสังคม)

หมายเหตุ

      ขณะนี้สำนักงานประกันสังคมที่/จังหวัด/สาขา ได้มีการออกหน่วยบริการเคลื่อนที่เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้ที่สนใจสมัครมาตรา 40  โดยสามารถกรอกแบบฟอร์มสมัครผ่านเจ้าหน้าที่/ตัวแทน  แต่ยังไม่มีการเก็บเงินสมทบ ทั้งนี้ในการเก็บเงินสมทบจะเริ่มเก็บในเดือน พฤษภาคม 2554 หรือสามารถติดต่อขึ้นทะเบียนเป็นผู้ประกันตนได้  ตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม 2554 เป็นต้นไป  ที่สำนักงานประกันสังคมเขตพื้นที่/จังหวัด/สาขา 
ดังนั้นจึงขอให้ผู้ที่ไม่ได้ทำงานกับสถานประกอบการ หรือผู้ที่ประกอบอาชีพอิสระทุกสาขาอาชีพมั่นใจได้ว่า ยังสามารถเป็นผู้ประกันตนกับทางสำนักงานประกันสังคมได้ โดยได้รับสิทธิประโยชน์สอดคล้องกับจำนวนเงินสมทบที่ส่งและให้ผู้ประกันตนสามารถมีชีวิตอยู่ในสังคมได้อย่างมีความสุข



ทีมา: สิทธิประโยชน์ของผู้ประกันตนมาตรา 40 จากสำนักงานประกันสังคม

24 ความคิดเห็น:

  1. อยากทราบว่ามาตรตรา40นี้เวลาเจ็บป่วยจะสามารถใช้สิทที่โรงพยาบาลได้มั้ยครับ

    ตอบลบ
  2. อยากทราบว่ามาตรตรา40นี้เวลาเจ็บป่วยจะสามารถใช้สิทที่โรงพยาบาลได้มั้ยครับ

    ตอบลบ
  3. ออกจากงานไม่เกิน 6 เดือน สามารถสมัครมาตรา 39 ได้หรือไม่ แต่ตอนนี้อยู่ต่างประเทศ สามารถให้ใครยื่นแทนได้หรือไม่

    ตอบลบ
  4. ส่งคำขอมาตตรา40 ทางไปรษณีย์ ได้ไหมค่ะ บ้านอยู่นอกมากๆๆ

    ตอบลบ
  5. ความคิดเห็นนี้ถูกผู้เขียนลบ

    ตอบลบ
  6. ไม่ระบุชื่อ28 มีนาคม 2560 เวลา 02:57

    ส่งเดือนละเท่าไหร่ค่ะเดือนละ150หรอค่ะ

    ตอบลบ
  7. ตอนนี้ยังสมัครประกันสังคมมาตตรา40ได้ยุหรือเปล่าค่ะ

    ตอบลบ
  8. ถ้าท้องได้6เดือนสามารถทำได้ไหมคะ

    ตอบลบ
  9. ผมมีสิทธิ์บัตรประกันสังคมยังคับ

    ตอบลบ
  10. ขาดส่งมาหลายปี...สมัครไหม่ได้ไหม?คัฟ

    ตอบลบ
  11. ทำงานต่างจังหวัด อยากทำไว้เวลาเจ็บป่วยค่ะ เพราะโรงงานไม่ทำให้ สามารถทำเองส่งให้ตัวเองได้ไหมค่ะ

    ตอบลบ
  12. กรณีที่เข้าทำงานมาแล้ว1ปีเจ้านายไม่ยื่นเรื่องประกันสังคมให้ และใด้หักเงินเราไปทุกเดือนๆละ500บาทระยะเวลา1ปีเราสามารถร้องเรียนใด้หรือไม่คะ

    ตอบลบ
  13. สอบหน่อยค่ะแม่อายุ 51 พ่ออายุ 53 ปีจะทำประกันสังคมได้ไหมค่ะรบกวนตอบด้วยน่ะค่ะ


    ตอบลบ
  14. สอบหน่อยค่ะแม่อายุ 51 พ่ออายุ 53 ปีจะทำประกันสังคมได้ไหมค่ะรบกวนตอบด้วยน่ะค่ะ


    ตอบลบ
  15. ประกันตนมาตรา40คุ้มครองสิทธิ์เจ็บป่วย(กรณีไม่นอนรักษาตัว ผู้ป่วยนอก)มั้ยคับ

    ตอบลบ
  16. สมัครแล้วใช้ได้เลยไหมคับ

    ตอบลบ
  17. ต้องเตรียมเงินรึเปล่า

    ตอบลบ
  18. อยากรุ้ว่าคนที่ยังไม่เคยเข้าประกันสังคมจะสมัครได้ไหมค่ะ?
    แล้วถ้าเข้าประกันสังคมตอนที่คลอดบุตแล้วจะได้รับเงิน600/เดือนจนถึว7ขวบ ได้ยุไหมค่ะ?

    ตอบลบ
  19. ต้องสมัครทำประกันสังคมที่จว.ที่เรามีทะเบียนบ้านอยู่หรือสมัครที่จว.ไหนก็ได้คะ

    ตอบลบ
  20. ท้องแล้วทำประกันสังคมได้มั้ยคะ

    ตอบลบ
  21. ท้องตอนนี้ทำประกันสังคมตอนนี้สามารถมีสิทเบิกค่าคลอดหรือได้เงินสมทบบุตรหรือป่าวคะ

    ตอบลบ
  22. ขาดส่งเปนปีๆเเต่อยากทำมาตรา39ทำได้ไหมคับ

    ตอบลบ
  23. อยากสมัครแบบออนไลน์คัฟต้องทำไง

    ตอบลบ
  24. ดีค่ะพออยากจะทำประกันสังคมนะค่ะต้องทำงัยค่ะ

    ตอบลบ